สัมภาษณ์ ‘เฟิร์น’ Hacker สายบัญชี

แชร์โพสต์นี้
Facebook
Twitter
Email
ใครยังเรียนอยู่และกำลังตัดสินใจว่าจะมา Hack ดีหรือไม่ยกมือขึ้น ✋ ครั้งนี้เราขอชวนมาทำความรู้จักกับ ‘เฟิร์น’ บัณฑิตา ดีขวัญงาม นักศึกษาชั้นปีที่ 4 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หนึ่งในผู้มาเข้าร่วมโครงการ Climathon BKK

ปกติเคยเข้าร่วมโครงการ Hackathon มาก่อนไหม❓
ถ้าเป็น Hackathon เลยเฟิร์นเคยเป็นทีมสตาฟหลัก แต่ว่าส่วนใหญ่จะเป็นการแข่ง case competition ถ้าเป็นสิ่งแวดล้อมเฟิร์นเคยแข่งอันนึงที่เป็น Green Hack ของมหาวิทยาลัยขอนแก่น เข้าถึงรอบรองชนะเลิศ อันนั้นคืออันเดียวที่เคยแข่งเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ที่เหลือก็จะเป็นด้านกลยุทธ์และธุรกิจ

ทำไมถึงตัดสินใจมาร่วม Hack ครั้งนี้คะ❓
ที่เคยเข้าร่วมมันเป็น Green Hack ก็จริง แต่ก็เป็นเหมือนด้านสถาปัตย์ที่ต้องออกแบบโครงสร้างพื้นที่ เฟิร์นก็เลยรู้สึกว่าอันนั้นยังไม่ตอบโจทย์ของเฟิร์นที่อยากรู้ด้านสิ่งแวดล้อมขนาดนั้น เฟิร์นสนใจตัวโครงการนี้ที่มันเป็นโครงการสนับสนุนโดยไทยกับสถานทูตอเมริกา ที่เหมือนเขาสนใจ fellowship ด้านสิ่งแวดล้อมอยู่แล้ว ก็เลยอยากลองมาฝั่งไทยก่อน แถมอันนี้ก็ดูเข้าร่วมเป็นหลายประเทศ ก็เลยคิดว่าน่าจะเป็นสิ่งที่เฟิร์นตามหา

บรรยากาศกิจกรรมเป็นอย่างไรบ้าง❓
เฟิร์นไม่เคยร่วม Hack มาก่อน ถ้าเป็น Case มันก็เช้าเย็นกลับ ยังไม่เคยมาที่เป็นแบบหลายวันขนาดนี้ เฟิร์นชอบนะคะ ที่วันแรกเป็นการมาเกริ่นๆ เจอกันก่อน วันต่อไปเป็น workshop ทั้งวัน แล้ววันสุดท้ายก็ค่อย pitching แต่ว่าเฟิร์นก็แอบรู้สึกว่ามันน่าจะมีเวลานานกว่านี้ แบบที่ไม่ต้องอดหลับอดนอนน่ะค่ะ แต่ไม่แน่ใจว่าตามกฎปกติเขาต้องค้างคืนแบบนี้ไหม

เฟิร์นอยากมาทำลายความคิดอีกแบบอย่างที่เฟิร์นบอกไปตอนแรก ตอนมาเฟิร์นว่าความรู้สึกมันต่างกับตอนก่อนมาเลย เฟิร์นว่าทุกคนมาโดยที่ไม่ได้มีไอเดียจ๋าขนาดนั้นแต่อยากลอง เช่น เฟิร์นขาย business อยากรู้ว่าของเรามันจะพอไปช่วยเขาได้มากแค่ไหน มาที่นี่ก็มาเจอคนที่ไอเดียโหดๆ ที่มีความเชี่ยวชาญและมีความรู้เฉพาะด้าน มันทำให้เฟิร์นเรียนรู้ประสบการณ์ของเขาไปในตัว บวกกับการที่เฟิร์นใช้ความสามารถของเราเข้าไปอยู่ในนั้นด้วย ตอนแรกเฟิร์นคิดว่าเราจะเป็นคนที่แบลงค์มากที่อยู่ในกลุ่ม แต่มันก็สามารถพึ่งพากันไปได้

ปกติเราสนใจประเด็นปัญหาสิ่งแวดล้อมอะไรหรือเปล่าคะ❓
ครั้งแรกเฟิร์นลงขยะไว้ แต่ว่าสุดท้ายก็เปลี่ยน มาจบลงที่ transportation แต่อันนี้อาจจะเป็นความโลเลของเฟิร์นที่ฟังช่วงพูดคุยจาก BTS ไปตอนวันศุกร์ เฟิร์นก็เลยรู้สึกว่า หรือขยะมันก็เป็นปลายทางของพฤติกรรม อันนี้เฟิร์นคิดเองนะคะ ว่าถ้าขยะเปลี่ยนที่พฤติกรรมอาจจะง่ายสุด แต่ตัว transportation สามารถแก้ได้ด้วยไอเดียในการแก้ คือเฟิร์นมีปัญหาที่บ้านเฟิร์นอยู่ไกล ขนส่งเข้าไม่ถึง ก็เลยรู้สึกว่า หรือปัญหานี้มันเป็นปัญหาที่เฟิร์นต้องกังวลและอยากรู้มากกว่าของตัวขยะ ก็เลยย้ายมาทำตัวนี้

ตอนแรกที่สนใจเรื่องขยะ เพราะเขตของบ้านเฟิร์นจะมี landfill แล้วเฟิร์นเบื่อกับการเข้าออกไม่เป็นทาง แต่พอมาจริงและได้ฟังทาง BTS มาพูด เฟิร์นก็เลยลองมองมาที่ตัวเองก่อน ว่าตัวเองกระทบปัญหาไหนมากกว่า และเหมือนมันไม่ใช่การทำเพื่อตัวเองน่ะค่ะ แต่เฟิร์นอยากรู้ว่ามันจะพอมีทางไหนไหมที่คนจะมาช่วยออกแบบความคิดให้มันต่างกันไปได้ เฟิร์นก็เลยมาสนใจ transportation ก่อน แต่ขยะก็ไม่ใช่ว่าไม่สนใจ อาจจะเป็นเรื่องหลังที่เฟิร์นอยากรู้ต่อไป

จุดแข็งและจุดอ่อนของตัวเอง❓
เฟิร์นว่าเฟิร์นเป็นคนมนุษยสัมพันธ์ดี เฟิร์นสามารถเปิดบทสนทนาให้มันน่าคุยได้ แล้วเฟิร์นรู้สึกว่าเป็นตัวเชื่อมสัมพันธ์ เช่น เพื่อนสองคนนี้ไม่คุยกัน เฟิร์นจะเป็นตัวเชื่อมให้เขาพยายามคุยกันได้ เฟิร์นว่าเฟิร์นชอบให้ทุกคนได้ออกความเห็น เพราะอยากรู้ว่าแนวคิดของแต่ละคนเป็นยังไง เฟิร์นก็เลยพยายามทำให้ทุกคนได้พูด พยายามทำให้สภาพแวดล้อมดีขึ้น แต่ถ้าจุดอ่อน ก็คือจะแอบใจร้อนนิดนึง เช่น สมมติว่าคนนี้เริ่มงานช้า ทำงานช้า พูดช้า ทำให้มันเหมือนมีช่องว่างที่เราไม่จำเป็นต้องเสียเวลาตรงนั้นไป เฟิร์นจะรู้สึกหงุดหงิดนิดนึง จะรู้สึกอยากเร่งให้มันเสร็จๆ

มันช่วยหรือขัดขวางในการทำงานของเราครั้งนี้ยังไงหรือเปล่า❓
ถ้าจุดแข็ง อันนี้น่าจะช่วยเลย เพราะว่ากลุ่มเรามันก็ต่างที่มาเลย มีน้อง ม.6 มีพี่ที่จบแล้วอยู่ในนั้น มีคนที่อายุทำงานหลายด้านมาแล้วอยู่ในนั้น เฟิร์นว่าเฟิร์นสามารถทำให้เรารวมตัวกันได้แล้วสุดท้ายคนก็เฮฮาปาร์ตี้กัน แต่ถ้าจุดอ่อน เช่น เมื่อวานเฟิร์นแอบง่วงนิดนึงตอนตี 3 เฟิร์นก็จะรู้สึกว่ามีอะไรให้เราทำอีกไหม เฟิร์นจะได้ไปนอน แต่เฟิร์นว่าเฟิร์นก็น่าจะทำโอเคนะคะ เพราะไม่ได้ไปเร่งเขามากว่าจะให้ทำอะไรหรือเปล่า แต่จะพยายามทำในส่วนที่ตัวเองได้รับมอบหมาย

ตัวค่ายที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมสนใจทำต่อไปใช่ไหม❓
เฟิร์นว่าเฟิร์นสนแต่อาจจะลองในมิติอื่น จะได้รู้ว่าตัวเองชอบอะไร อาจจะไม่ใช่การแข่ง Hackathon แต่อาจจะเป็นการไปดูนิทรรศการ เข้าเวิร์คช็อป หรืออาจจะเป็นการจัดกิจกรรมในรูปแบบอื่น เพราะอันนี้เฟิร์นก็รู้สึกว่าเต็มที่ เฟิร์นได้ลองเห็นแล้วว่าสถานการณ์ที่ต้องคิดจริงๆ มันเป็นยังไง อาจจะลองไปแลกเปลี่ยนนิทรรศการ อารมณ์เหมือนไปทัศนศึกษา เฟิร์นเคยไป Green Peace ตอน ม.5 เป็นการไปป่าชายเลน มันก็จะแตกต่างกันออกไป อันนั้นก็อาจจะเป็นเวอร์ชันแก้ปัญหาจริง ส่วนอันนี้ก็จะเป็นเวอร์ชันแบบที่พูดคุยปัญหากัน เฟิร์นอาจจะลองชั่งน้ำหนักดู อยากลองไปหลายๆ แบบ ถ้ามีโอกาสก็อยากร่วมอีก

ครั้งนี้สนุกใช่ไหม❓
สนุกกก แต่ไม่ได้นอนอะ (หัวเราะ)

ขอบคุณน้องเฟิร์นที่มาร่วมแสดงความคิดเห็นค่ะ มีอะไรที่อยากแชร์ส่งท้ายหรือเปล่า❓
เฟิร์นเห็นโครงการนี้แล้วสนใจมากเพราะมันไล่บอกมาเลยตั้งแต่ต้นว่าจุดประสงค์คืออะไร องค์กรที่เกี่ยวข้องคืออะไร จุดประสงค์หลักที่องค์กรเหล่านั้นจะมาคืออะไร เฟิร์นเห็นตั้งแต่การไล่ทุกอย่างลงไป มันดูเห็นภาพ มันทำให้เฟิร์นอยากรู้ต่อว่าตัวเนื้อหาข้างในมันเป็นยังไง แล้วเขาจะนำไอเดียเราไปทำอะไรต่อ เฟิร์นเลยรู้สึกว่าเฟิร์นเป็นจุดเล็ก ตัวเล็กๆ ที่น่าจะทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่ได้ค่ะ เฟิร์นก็เลยรู้สึกชอบที่โครงการของเรามันอธิบายหมดเลย แล้วพอเราเห็นว่ามันเป็นซีรีส์ 6 โครงการใหญ่ หนูก็รู้สึกว่าดีอีก มันก็จะเป็นอีก 1 พอยต์เล็กๆ ที่เรามารวมตัวกัน

ข่าวสาร/บทความล่าสุด

ติดตามพวกเราได้ที่